เจาะคดีฆ่า"นร.สาว" ดีเอ็นเอมัดหนุ่มโหด รับขืนใจ-เชือกรัดคอ

ย้อนกลับไปเมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา เกิดเหตุสยองขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เมื่อมีผู้พบศพเด็กนักเรียนสาว ม.4 วัยเพียง 16 ปี ถูกคนร้ายฆ่าข่มขืน หมกศพทิ้งกลางป่าใน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

ทำให้ตำรวจจากหลายหน่วยงานทั้งชุดสืบสวนภาค 1 สืบจังหวัด สืบท้องที่ รวมถึงตำรวจกองปราบปราม ระดมตรวจสอบตามหมู่บ้านผู้ตายและใกล้เคียง แต่ก็ไร้วี่แววคนร้าย

พอเวลาผ่านไปข่าวคราวก็เงียบหายตามไปด้วย แต่ใช่ว่าตำรวจจะเลิกติดตามสืบหาตัวฆาตกรโหด ทุกหน่วยยังทำงานอย่างขะมัก เขม้น พร้อมเก็บหลักฐานดีเอ็นเอชายหนุ่มจำนวนมากไปตรวจสอบ


กระทั่ง 1 เดือนผ่านไป สุดท้ายฆาตกรโหดเห็นว่าไม่มีทางรอดแน่แล้ว จึงชิงเดินทางเข้ามอบตัว

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อใกล้เที่ยง วันที่ 13 เม.ย. ร.ต.ท.พายัพ รุ่งหัวไผ่ พงส.สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆ่าบริเวณป่าละเมาะ ริมถนนสายคลองเกตุ-หัวดง ม.7 ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง

จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.พรชัย ไข่สนอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.อาคม พิพัฒน์เดชพงษ์ ผกก.สภ.โคกสำโรง พ.ต.ท.ฐกร โสภิตกุล รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวน


ที่เกิดเหตุพบศพน.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงผ้ายืดสีดำ ใบหน้าและตามตัวพบรอยช้ำจากการถูกทำร้าย ที่ลำคอพบถูกรัดด้วยเชือกกางเกงเจ.เจ.สีขาว เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง


บริเวณพงหญ้า ห่างจากจุดที่พบศพไปราว 20 เมตร บนถนนทางเข้าไร่พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มคาดดำ ทะเบียน ขธน 873 ลพบุรี ล้มคว่ำอยู่ และพบรอยลากจากจุดที่รถคว่ำเป็นทางไปยังจุดพบศพ อีกทั้งยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป


พ่อของเหยื่อสาวที่ยังไม่หายช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวทั้งน้ำตาว่า ช่วงเช้าลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาส่งตนที่ไร่มันสำปะหลัง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 ก.ม. หลังส่งแล้วเสร็จลูกสาวก็ขี่รถกลับบ้าน แต่ทางบ้านเห็นว่าหายไปนานยังไม่กลับ จึงออกมาตามหาจนมาพบรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่กลางถนนเข้าไร่ เมื่อค้นหาบริเวณใกล้เคียงก็พบลูกสาวเป็นศพอยู่ใต้ต้นสะเดาในป่าละเมาะ

ต่อมาแพทย์ร.พ.โคกสำโรงชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ที่อวัยวะเพศฉีกขาดคล้ายถูกข่มขืน แต่ไม่พบคราบอสุจิ จึงมอบให้อาสาสมัครสมาคมกู้ภัย โคกสำโรงสงเคราะห์นำศพส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง


ส่วนการติดตามล่าตัวฆาตกรหื่น พล.ต.ต.ชัยพรสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในหมู่บ้านของผู้ตายและหมู่บ้านใกล้เคียงว่า มีใครหายไปจากหมู่บ้านหรือไม่ พร้อมเชิญญาติพี่น้องและเพื่อนผู้ตายมาสอบสวนด้วยว่าคนตายมีความสัมพันธ์ หรือมีเรื่องทะเลาะกับใครบ้าง


หลังเกิดคดีดังกล่าวผู้บังคับบัญชาระดับสูงทั้งในตำรวจภูธรภาค 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ และชุดสืบสวนภาค 1 ลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดี


โดยแนวทางการสืบสวนพุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีประวัติในเรื่องยาเสพ ติดและการกระทำความผิดในเรื่องอนาจารและข่ม ขืน โดยเก็บดีเอ็นเอไปตรวจสอบ


แม้จะใช้เวลานานนับเดือนในการนำตัวชายหนุ่มหลายสิบรายมาสอบสวน ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้คือ นายเฉลิมพล หรือ นุ เงินพันธ์ อายุ 27 ปี ที่เคยถูกจับกุมตัวข้อหาพกพาอาวุธปืน และพยายามข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดเมื่อปลายปี "57 ในพื้นที่ ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง


ตำรวจจึงนำดีเอ็นเอมาตรวจสอบ จนพบว่าตรงกันจึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายเฉลิมพลนั่นเอง


เมื่อรู้ตัวว่าไม่รอดแน่ บ่ายวันที่ 13 พ.ค. หลังเหตุสยองผ่านไป 1 เดือนพอดี นายเฉลิมพลที่หนีหายไปหลังเกิดเหตุก็ชิงเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา


ฆาตกรโหดให้การสารภาพว่า วันเกิดเหตุไปหาตีผึ้งบริเวณดังกล่าวและเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงใช้มือจับแฮนด์รถบีบเบรกมือให้รถจอด จากนั้นบังคับให้ลงจากรถมานั่งกับพื้นถนน ก่อนพยายามข่มขืน แต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต แล้วลากศพเข้าไปทิ้งในป่าก่อนหลบหนีไป


ต่อมาตำรวจกดดันหนัก ทั้งเข้าตรวจค้นบ้าน พร้อมกับนำเส้นผมของตนไปตรวจ เมื่อเห็นว่าคงจะหนีไม่รอดแน่แล้วจึงตัดสินใจกลับมาเล่าความจริงให้แม่ฟัง และให้พาเข้ามอบตัว


วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเฉลิมพลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านนับพันที่มารอรุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าสาปแช่ง


บางคนพยายามฝ่าแนวเจ้าหน้าที่กว่า 100 นายเข้าไปทำร้ายนายเฉลิมพลเพื่อระบายความแค้น จนต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ตู้
Cr : www.khaosod.co.th

Share this